ทำประกันชั้นหนึ่งเคลมยางได้หรือไม่

ทำอย่างไรเมื่อล้อและยางรถยนต์ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ล้อและยางรถยนต์นับได้ว่าเป็นส่วนควบและอุปกรณ์ (ยางอะไหล่ ) ที่มีสำคัญต่อตัวรถ เพราะถ้าไม่มีล้อและยางรถยนต์แล้ว รถยนต์คงไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ปกติเวลาถ้ารถยนต์ยังใช้งานได้ตามปกติเราอาจมองไม่เห็นความสำคัญเท่าไหร่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ล้อและยางรถยนต์ได้เกิดปัญหาขึ้นมา เป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถชนเกิดความเสียหายที่ล้อและยาง หรือยางรถถูกคนร้ายมาลักหรือขโมยไป ( งานเข้าแน่นอนครับ )
หลายคนอาจจะไม่ทราบ และหลายคนคงจะทราบแล้ว ว่า ถ้ารถยนต์ของเรามีประกันภัยประเภท 1 ที่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ สามารถเคลมความเสียหายในส่วนของล้อและยางรถยนต์ได้ ( ทั้งกรณีรถเกิดอุบัติเหตุชนและถูกลักยางอะไหล่ กรณีถูกลักถ้าเป็นประกันภัยประเภท 2 ทุกชนิด สามารถเคลมได้เช่นเดียวกันครับ )
หลายคนคงเคยเคลมความเสียหายในส่วนของล้อและยางรถยนต์กับบริษัทประกัยมาแล้ว แต่อาจยังมีข้อข้องใจอยู่ว่า ทำไมกรณีของยางรถยนต์ทำไมประกันไม่จ่ายค่าเสียหายเต็มจำนวน ( ทั้งกรณีเป็นฝ่ายถูกชน ) ปัยหาตรงนี้ประกันแต่ละบริษัทยังปฎิบัติไม่เหมือนกัน ผู้เขียนจึงนำปัญหาในกรณีนี้มาอธิบาย ดังนี้ครับ
ล้อและยางรถยนต์เป็นส่วนควบและอุปกรณ์ที่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภท 1 และประเภท 2 ธรรมดาและ 2 พลัส ดังนี้
ประเภท 1 คุ้มครองความเสียหายจากการชน และการลักทรัพย์
ประเภท 2 และ 2 พิเศษ คุ้มครองเฉพาะจากการลักทรัพย์เท่านั้น

กรณีความเสียหายจากการชน มีการแบ่งแยกความคุ้มครองดังนี้
ความเสียหายต่อล้อแม็กซ์,ล้อ คุ้มครองเต็มมูลค่าของล้อแม็กซ์หรือล้อที่เสียหาย แต่มีเงื่อนไขความคุ้มครองอีกคือ ถ้าเป็นล้อแม็กซ์หรือล้อเดิม ( เดิมๆ ที่ติดมากับตัวรถ ) ประกันจะรับผิดชอบให้เต็มมูลค่า แต่ปัญหาคือ ถ้าลูกค้าไปเปลี่ยนล้อแม็กซ์มาใหม่ ใหญ่ขึ้น มีราคาสูงขึ้นเกินมูลค่าของล้อเดิมมาก , เพราะถ้ามูลค่าน้อยหรือเท่าล้อเดิมก็จะไม่มีปัญหา ) บริษัทประกันส่วนมากจะคุ้มครองให้ ต่อเมื่อลูกค้าได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงนั้นไปให้บริษัทประกันทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ( เพราะว่าบริษัทประกันต้องรับทราบในการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของทรัพย์สินตามความคุ้มครองในกรมธรรม์ ถือเป็นสาระสำคัญที่ลูกค้าจะต้องแจ้ง ถ้าไม่แจ้ง บริษัท มีสิทธิ์ปฎิเสธความคุ้มครอง หรือ คุ้มครองเพียงราคามาตรฐานที่ออกจากโรงงานผู้ผลิตเท่านัน )

ความเสียหายต่อยาง บริษัทประกันส่วนมากจะคุ้มครองให้ลูกค้าในอัตราร้อยละ 50 หรือ 50 % ของราคาค่ายาง ( โดยเหตุผลว่าต้องมีการหักค่าเสื่อมการใช้งาน เพราะยางรถยนต์นั้น ถือได้ว่าเป็อุปกรณ์ที่มีความเสื่อมในตัววของมันเอง คือ ใช้ไปเสื่อมไป แม้ไม่มีการชน หรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นลูกค้า หรือผู้ใช้รถก็ยังคงต้อเปลี่ยน พเราะมันสึกหรอตามสภาพหรืออายุการใช้งานของมันเอง โดยบริษัทประกันจะตั้งมาตรฐานกลางๆไว้ แม้ยางของลูกค้าที่เสียหายจะเป็นยางใหม่ ( ใช้งานมาไม่นาน ไม่ถึงเดือน หรือ ถ้าเป็นยางอะไหล่อาจจะไม่เคยมีการใช้เลยก็ได้ ) กรณีดังกล่าว ถ้าลูกค้าเป็นยางเก่าใช้งานมานาน 1-2 ปี ใกล้เวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้วคงไม่เป็นไร ยอมรับได้ แต่ว่าถ้ายางของลูกค้าเป็นยางใหม่ คงจะทำใจลำบากเพราะต้องเสียค่ายางเองอีก 50 % ดังนั้นเวลาเคลม ลูกค้าส่วนมากจะต้องบอกว่าประกันเอาเปรียบ ในบางบริษัทอาจตั้งเงื่อนไขว่ากรณีของยางบริษัทจะรับผิดชอบให้นั้น ความเสียหายต้องเกิดจากการชน และมีความเสียหายที่บริเวณแก้มยาง ( ส่วนที่จากขอบล้อลงไปถึงส่วนที่สัมผัสพื้นถนน ) และอุบัติเหตุกรณีของยางจะต้องมีส่วนควบของตัวรถได้รับความเสียหายด้วย เช่น ล้อแม็กซ์ครูด,บิ่น ( ยางอย่างเดียวไม่รับผิดชอบ ) ฯลฯ ส่วนมากจะปฎิเสธไว้ก่อน ( ตามภาพถ่าย )
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ยางรถยนต์
CC by. ปพน ศิรสิทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คำพิพากษาค่าสินไหมดแทน

ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด เขียนโดย  Vakin Youngchoay มาตรา 438 ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้นให้ศาลวินิจฉัยตามคว...